วันพุธที่ 15 สิงหาคม พ.ศ. 2555

มารู้จักกับรูรับแสงของเลนส์



มารู้จักกับรูรับแสงของเลนส์
เอฟสตอป (f stop number) หรือขนาดรูรับแสง เป็นกลไกอย่างหนึ่งในการควบคุมปริมาณแสงที่ส่งผ่านไปยังเซนเซอร์รับภาพ (Image Sensor) ดังที่ได้กล่าวไว้แล้วในเรื่อง หลักการถ่ายภาพเบื้องต้น ในตอนนี้เราจะมาดูกันถึงการใช้งานและประโยชน์จากการปรับตั้งค่ารูรับแสง


ค่าเอฟสตอป หรือ ขนาดรูรับแสง (บางตำราอาจเรียก"ช่องรับแสง") คือค่าการเปิดรับแสงของเลนส์ โดยใช้กลีบม่านหรือไดอะแฟรมที่อยู่ภายในกระบอกเลนส์เป็นตัวควบคุม ในยุคแรกๆของกล้องถ่ายภาพ ค่ารูรับแสงจะแบ่งเป็นขั้นละหนึ่งสตอป การควบคุมขนาดรูรับแสงทำได้ด้วยการหมุนวงแหวนปรับรูรับแสงที่ตัวเลนส์โดยตรง เนื่องจากเลนส์ยุคก่อนเป็นระบบกลไกล้วน ต่างจากเลนส์ในยุคดิจิตอลที่ใช้ระบบอิเลคทรอนิคเป็นตัวควบคุมและสั่งการได้จากตัวกล้อง เราจึงไม่เห็นวงแหวนปรับรูรับแสงในเลนส์รุ่นใหม่ๆที่ผลิตออกมา การเปลี่ยนแปลงนี้ทำให้เราสามารถปรับขนาดรูรับแสงได้อย่างละเอียดขึ้น โดยแบ่งเป็นขั้นละ 1/3 สตอป หรือ 1/2 สตอป ต่างจากเลนส์แมคคานิค ที่เป็นกลไกล้วนโดยมากจะปรับได้ขั้นละ 1 หรือ 1/2 สตอป

ตัวอย่างค่ารูรับแสงที่แบ่งเป็นขั้นละ 1 สตอป จะมีดังนี้ f1 / f1.4 / f2 / f2.8 / f4 / f5.6 / f8 / f11 / f16 / f22 / f32 / f45 / f64 
ตัวเลขแสดงค่ารูรับแสงจะให้ผลตรงกันข้ามกับปริมาณการเปิดรับแสงของเลนส์ เช่นค่ารูรับแสง f2 จะให้ปริมาณแสงมากกว่าขนาดรูรับแสง f2.8 อยู่ 1 สตอป มากกว่า f4 อยู่ 2 สตอป หมายความว่ายิ่งเลือกใช้ค่ารูรับแสงมากขึ้น ม่านไดอะแฟรมในตัวเลนส์ก็จะยิ่งหรี่เล็กลง แสงจะผ่านไปยังเซนเซอร์ได้น้อย
เพื่อไม่ให้สับสนควรจำให้ได้ว่า ค่าตัวเลขน้อยขนาดรูรับแสงกว้าง ค่าตัวเลขมากขนาดรูรับแสงแคบ


CANON EOS 40D เลนส์ซูม EFS 17-85 l กล้องดิจิตอลพร้อมเลนส์ ควบคุมการทำงานด้วยระบบอิเลคทรอนิค
ขนาดรูรับแสงปรับตั้งด้วยสวิทช์ที่ตัวกล้อง เลือกปรับละเอียดได้ขั้นละ 1/3 สตอป


ภาพเปรียบเทียบการทำงานของไดอะแฟรมในตัวเลนส์ ที่เป็นตัวควบคุมปริมาณแสงภาพแรกเปิดรูรับแสงกว้างสุดของเลนส์คือ f1.2 ส่วนภาพที่สองลดขนาดรูรับแสงลงเหลือ f2 จะสังเกตุเห็นม่านไดอะแฟรมหรี่เล็กลงเพื่อลดปริมาณแสงที่จะผ่านไปยังตัวเซนเซอร์ของกล้อง


ภาพแสดงให้เห็นการหรี่ของไดอะแฟรมเมื่อปรับเลือกขนาดรูรับแสงตามค่าต่างๆ ในตัวอย่างเป็นขนาดรูรับแสงที่มีค่าต่างกันภาพละ 1 สตอป
ในเลนส์แต่ละตัวจะมีค่ารูรับแสงกว้างสุดและแคบสุดไม่เท่ากัน ขึ้นอยู่กับจุดประสงค์ในการออกแบบ เลนส์ที่มีขนาดรูรับแสงกว้างมากจะมีราคาสูงกว่า เมื่อเทียบกับเลนส์ที่มีขนาดทางยาวโฟกัสเท่ากันแต่ค่ารูรับแสงกว้างสุดแคบกว่า เนื่องจากเลนส์ที่มีค่ารูรับแสงกว้างมากจำเป็นต้องใช้ชิ้นเลนส์ที่มีขนาดใหญ่ขึ้น เพื่อการรวมแสงที่ดี ต้องได้รับการออกแบบเป็นพิเศษและแน่นอนขนาดและน้ำหนักก็จะมากตามไปด้วย

ขนาดรูรับแสงที่กว้างกว่าหมายถึงโอกาสที่จะได้ภาพนั้นมีมากขึ้นด้วย เมื่อจำเป็นต้องถ่ายภาพในสภาวะแสงน้อยเลนส์ที่สามารถเปิดรับแสงได้มากกว่าย่อมมีโอกาสได้ภาพมากกว่า

ตารางแสดงค่ารูรับแสงSTANDARD FULL STOP F-NUMBER SCALE (ขนาดรูรับแสงมาตรฐาน ขั้นละ 1 สตอป)
f -stop0.50.71.01.422.845.6811162232456490128

ONE-HALF-STOP F-NUMBER SCALE (ขนาดรูรับแสงขั้นละ 1/2 สตอป)
f-stop1.01.21.41.722.42.83.344.85.66.789.51113161922

ONE-THIRD-STOP F-NUMBER SCALE (ขนาดรูรับแสงขั้นละ 1/3 สตอป)
f-stop1.01.11.21.41.61.822.22.52.83.33.544.555.66.37.1891011



ขอบคุณที่มาจาก : zmos.net

0 ความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น